วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2557

[หนัง] คุณหมอแพทซ์ อดัม



     หนังเรื่องนี้เป็นหนังคนที่...

อยากเป็นหมอ 

กำลังเรียนหมอ 

จบหมอแล้ว 

หรือไม่ใช่หมอ 

..ก็น่าดู


(หนังเก่า 1998 อีกแล้วค่ะ)


            ตั้งแต่เริ่มเรื่อง.... อดัมเป็นคนธรรมดาที่เข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลโรคประสาทเพราะพยายามฆ่าตัวตาย แต่ค้นพบความสนุกในการคุยกับคนไข้คนอื่น รับฟังปัญหาของพวกเขา เขาพบสิ่งที่อยากทำที่สุดในชีวิตแล้ว นั่นคือการช่วยเหลือคนอื่น

             ภาพตัดมาที่สองปีถัดมา อดัมเป็นนศพ.ปี 2 ที่แหกทุกกฏ เนียนเข้าไปคุยกับคนไข้ในรพ. เล่นด้วย สร้างความสนุกสนานเฮฮา และวุ่นวาย จนโดนคณบดี(มั้ง) เขม่นอยู่บ่อยๆ ช่วงแรกๆเขาก็รอดตัวไปได้ เพราะเขาคือหนึ่งในนศพ.ที่คะแนนสูงสุด !! (จะเกรียนต้องเก่งด้วยนะจ้ะ) แต่เมื่อความวุ่นวายทวีคูณ เพื่อนบางคนก็ใส่ร้าย บางคนก็ตีตัวออกห่าง ด้วยคำพูดว่า

"ฉันมาเรียนแพทย์ เพื่อจะเป็นแพทย์ที่ รักษาพวกเขาให้หาย ไม่ได้ต้องการมาเป็นตัวตลกให้คนไข้"

อดัมก็จะเถียงกลับประมาณ
"แล้วทำไมพวกเราต้องรักษาแต่โรค แค่ยืดวันตายคนไข้เหรอ หน้าที่ของแพทย์ควรจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตสิ ทำให้พวกเขามีความสุขด้วยสิ"

              เรื่องนี้คงไม่เล่ายาว เพราะความสนุกของเรื่องอยู่ที่ความบ้าของตัวเอก ที่ไม่แคร์กฏและทำทุกอย่างได้เพื่อคนไข้ แพทซ์ใส่เสื้อเชิ้ตสีสันฉูดฉาดอยู่เสมอ เอาของในร.พ.มาเล่น เล่าเรื่องตลก และเฟรนด์ลี่ระดับเทพ จนทำให้คนไข้หลายๆคนเปิดใจให้เขา แม้แต่คนไข้ที่ก้าวร้าวและปิดใจที่สุด ก็ถูกแพทซ์ทลายกำแพงได้ด้วยความพยายาม แต่ก็มีหักมุมบางอย่างที่ทำให้เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่าชีวิตหมอบ้าบอคนนึง แสดงให้เห็นว่าแพทซ์ก็มีมุมเครียด เศร้าเหมือนคนทั่วไป

              ช่วงที่ดูแล้วชวนคิดที่สุดคือในห้องประชุมที่จะตัดสิทธ์การเรียนต่อของแพทซ์ อันนั้นจะแสดงแนวคิดออกมาชัดที่สุด แพทซ์อาจจะเป็นเหมือนหมอหน้าใหม่ ที่แรกๆก็ไฟแรง ปฏิบัติกับคนไข้อย่างดี ทุ่มเทชีวิตให้ มีปฏิสัมพันธ์ มีอารมณ์ความรู้สึกร่วมกัน ซึ่งตามจรรยาบรรณแพทย์มักจะไม่ให้สนิทกับคนไข้เกินควร ในเรื่องเคร่งเรื่องระยะระหว่างคนไข้-หมอ แบบมากๆ จนบางทีแพทย์ก็ลืมปฏิบัติกับคนไข้ในฐานะมนุษย์ไปหรือเปล่า ?



                ในเรื่องจะทำให้เราตั้งคำถามกับนิยามแพทย์อยู่เรื่อยๆ ตกลงแล้วแพทย์ต้องปฏิบัติตัวเองยังไงกันแน่ ตั้งใจเรียนอย่างเดียวมันคงไม่ใช่หรอก แล้วการทุ่มเทแบบแพทซ์ขนาดนี้ล่ะ ความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือคนอื่นใช่มั้ย คือเหตุผลที่ทำคนเรียนแพทย์อยากเป็นแพทย์  หรือเพราะเงิน ? เพราะเกียรติ ?

                 ......สุดท้ายเราว่าแพทซ์ไม่ใช่คำตอบของการเป็นแพทย์ซะทีเดียว อุดมการณ์และการทำอุดมการณ์สำเร็จของเขาเป็นเรื่องที่ดี น่ายกย่อง (สุดท้ายก็มี Gesundheit! Institute ได้จริงๆ เจ๋งมาก) แต่การจะให้ลุกขึ้นมาทำแบบเขานั้นคงเป็นไม่ได้แน่ ....แต่ละคนคงมีวิธีการ มีเส้นทางที่ต่างออกไป สิ่งที่จะได้จากเขาก็คงเป็นแรงผลักดัน ที่ทำให้เชื่อว่าการช่วยเหลือคนอื่นนั้นมันมีคุณค่า แม้ผลตอบแทนมันจะมีน้อย หรือไม่มี หรือได้รับอะไรแย่ๆกลับมาแทน แต่ถ้าทำให้สิ่งที่ตัวเองเชื่อว่าดี อย่างน้อยๆเราก็จะไม่เสียใจภายหลังแน่ๆเมื่อหันกลับมามองย้อนดู :)


                   สรุปแล้ว ก็ไม่ใช่หนังสนุกมากมายอะไร ดูเรื่อยๆ มีสุข มีเศร้า เราว่าเป็นหนังที่ดูแล้วได้แรงบันดาลในการคุยกับมนุษย์คนอื่นดี การสื่อสารกับคนอื่นไม่ใช่เรื่องยากขนาดนั้น แค่เรื่องเล็กๆน้อยก็ทำให้คนอื่นรู้สึกดีได้ ได้ทบทวนและถามตัวเองถึงอาชีพแพทย์ คิดว่าถ้าขาดแรงบันดาลใจเมื่อไหร่ คว้ามาดูอีกรอบก็คงได้อะไรดีๆ....กลับไปสู้กับโลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง  
             



คงจะเจอกันเอนทรี่หน้า

...หลังจากนี้กะว่าจะขุดแต่หนังเก่าๆมาดู 
หลังจากระเบิดมวลมหาดีวีดีที่บ้านออกมา 55555


ป.ล.เอ้อะ โรบิน วิลเลี่ยมอีกแล้วววววววว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น