วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

[หนัง] My bromance


แนวเรื่อง(ตามความเห็นส่วนตัว) : หนังเกย์,ชีวิต,พี่ชายครับ,ตลก,เศร้า,เซอร์วิส

ความยาว : เกือบ 2 ชม.

ภาษา : ไทย

สาเหตุ : เพื่อนอยากดู

เนื้อเรื่อง : พ่อของกอล์ฟแต่งงานใหม่ มีลูกชาย(แบงค์)ติดมาด้วย ตอนแรกกอล์ฟก็เกลียดน้องต่างแม่(เรื่องเครียด:1) แต่หลังจากเห็นความดีงามของน้องชายคนนี้แล้วความสัมพันธ์ดีๆก็เริ่มเกิดขึ้น

--เข้าโซนสปอยล์ผสมความเห็นส่วนตัว--

        จากนั้นพี่ก็หันมาเทคแคร์น้องแทนแกล้ง และตั้งใจ ทำตัวดีมากขึ้น จนไปถึงโมเม้นท์ยืนมองหน้ากันเนิ่นนาน และเซอร์วิสสาววายนิดหน่อย หลังจากความสัมพันธ์แฮปปี้มาจนป้าเจอรูปถ่ายคู่ คิดว่าป้าต้องเป็นสาววายแน่เลย.... มองรูปคู่แล้วเครียดได้ราวกับว่าเขียนว่าเกย์แปะอยู่ แต่แล้วป้าก็มาเจอสองหนุ่มซุกไซ้กัน แล้วก็เลยด่าทั้งคู่ ....เรื่องไปถึงพ่อ พ่อดราม่าจริงจัง --เป็นอันแรกที่คนแสดงเป็นพ่อดูแข็งน้อยลง ลูกก็เถียงจริงจัง เป็นการเอาประเด็นการรักเพศเดียวกันมาเสนอ ผิดยังไง ต่างกับชายรักหญิงยังไง แล้วก็แสดงถึงค่านิยมรับไม่ได้ของคนทั่วไป (เรื่องเครียด : 2) พ่อจึงยื่นคำขาดให้ไปเมกากับพ่อ จะได้ไม่เกย์กับน้องต่อ แล้ววันต่อมา(?)พี่ชายก็บินไปเลย ไม่อธิบายน้อง ปล่อยให้น้องด่าเ-ี้ยทั้งน้ำตาไล่หลัง....
           ตัดมาที่หกเดือนต่อมา พี่ดันกลับมาพร้อมแฟน น้องเลยเดทกับพี่เต๊าะ เอ้ย พี่ต้อมประชดชีวิต กอล์ฟก็ทำตัวหึงๆๆ ทั้งที่ตัวเองควงสาวกลับบ้านมาแล้วไปนอนโรงแรมกันแท้ๆ ตรงนี้แปลกที่แบงค์ไม่ตัดพ้อเรื่องนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ประชดอย่างเดียว จนโกรธเคืองกันไป จนแม่นำหนุ่มมาเสนอให้แบงค์ แล้วพี่ชายก็จะหมั้นกับผู้หญิงอีก (เรื่องเครียด : 3)  เป็นช่วงคู่รักประชดกัน จากนั้นแบงค์ก็โดนพี่ต้อมลวนลามแบบอย่างมากอีก --อย่างมากเพราะขนาดฉากของกอล์ฟแบงค์ยังไม่มีเห็นบอกเซอร์ด้วยซ้ำ ...อันนี้เราว่าก็น่าเอาไปดราม่าต่อได้ เพราะน่าจะเป็นการทำร้ายจิตใจแบงค์มากอยู่..แต่ก็ทิ้งไว้เฉยๆ (เรื่องเครียด : 4 ) แบงค์มาถึงบ้านตีสอง พี่กอล์ฟรออยู่ ทะเลาะกันต่อ ไม่เข้าใจทำไมต้องฉุดออกจากบ้านไปทะเลาะกันกลางถนนให้โดนรถชน (จะฉุดไปโรงแรม?) บาดเจ็บทั้งคู่ แต่พบว่าน้องไตพัง พี่เลยบริจาคไตให้ (เรื่องเครียด : 5) ....แต่ทำไมทุกคนต้องทำสีหน้าดราม่าขนาดนั้นกันนะ จากนั้นน้องก็ลากกระเป๋ากลับบ้านไปยืนแฟลชแบ็ค เป็นตอนบอกเลิกกัน ที่งงมากว่าควรจะเป็นตอนไหน คืนแหวนคู่ --หรือหนังจะสื่อด้วยตุ๊กตาอุลตร้าแมนที่พี่ชายต่ออยู่ก็ไม่รู้ แต่เรียบเรียงไม่ทันจริงๆ-- 
             แล้วก็มาเป็นวันเกิดน้องชายเลย ของขวัญมีมากมาย อันสุดท้ายของพี่ แกะมาเจอแหวนคู่ และจดหมายเยินๆที่เพื่อนล้วงมาจากไหนไม่รู้ เฉลยว่าพี่เป็นมะเร็งสมองตาย แบบอย่างไวในไม่กี่เดือน ให้ไตเป็นของขวัญ (เรื่องเครียด : 6) แต่ทุกคนปกปิดเอาไว้ จากนั้นชีวิตน้องชายก็ดำเนินต่อไป จบด้วยคำคมที่ค่อนข้างโหล...

คอมเม้นท์จากสมอง

   - ภาพ 7/10 ชัดและสวย ชอบเลยล่ะ  และบางส่วนก็เห็นความตั้งใจมาก อย่างตอนเริ่มที่ซูมขยะในห้องพระเอกเลย์เอย ซากเลย์เอย ชัดดี มุมกล้องก็ใช้ได้ ตอนจบมือของแบงค์ก็ใช้มือผู้ชายที่แก่ขึ้นไปอีก แต่ไม่ให้เต็มเพราะสิวพระเอกมันชัดแล้วทำให้รู้สึกว่าถ่ายไม่ติดต่อกัน

   - เสียง 5/10 เหมือนจะพยายามให้ได้ฟีลหนังชีวิตหรืออะไรสักอย่าง เสียงแบคกราวน์เยอะ
มากกกกกก ดังเกินเสียงคนด้วยบางครั้ง ค่อนข้างหนวกหู น่าจะลดเสียงไปได้มากกว่านี้ เพราะมันตีกันกับมิวสิคที่ใส่เข้ามา แล้วมิวสิคก็ตัดๆเปลี่ยนๆเร็วมาก เฟดออกไม่ค่อยเนียน อารมณ์มันเลยกระตุก

   - เนื้อเรื่อง 4/10 ถือว่าโอเคในแง่หนังชีวิตม.ปลาย แบบโมเม้นท์กับเพื่อนๆ มีเรื่องเพื่อนคนอื่นบ้าง แต่เฟลในความเป็นหนังดราม่า ก็เศร้านะ แต่เหมือนมันต้องการจะยัดๆมากเกินไป และช่วงที่ควรจะมีต่อกลับตัดเลย ช่วงที่สามารถตัดเรื่องได้ก็ดำเนินเรื่องยาวไป 
       พระเอกทำตัวเซนสิทีฟมากๆ น้ำตาไหลค่อนข้างบ่อย ในฐานะผู้ชายแบบBad boy น่าจะเก็บอารมณ์ได้ดีกว่านี้ แล้วแต่ก่อนก็ชอบผู้หญิงด้วย ทำให้รู้สึกว่ายอมรับความรู้สึกตัวเองต่อน้องง่ายไป แล้วก็พวกคำพูดเลี่ยนๆที่ดูไม่สมจริง (ส่วนตัวคิดว่าวิธีร้องไห้ตลกเกินไปจนขำ..ขอโทษค่ะ) 
       น้องชาย ตอนเริ่มมาเป็นเด็กผู้ชายเรียบร้อยมากออกแนวเบ๊ แต่พอสารภาพรักกันปุ๊บความแมนมลายหายไปเบย ส่วนตัวแอบรู้สึกว่าถ้าแมนอีกหน่อยมันจะได้อารมณ์มากกว่า แต่ก็เป็นนางเอกนี่นะ พอแต่งหน้าแล้วก็สวย(มากกกกกกกกกกก) ตามเรื่องเหมือนจะให้เป็นคนดีมากๆๆๆ จนเจอเรื่องร้ายๆหลายเรื่องก็ไม่เก็บมาคิดเลย (หรือคิดนะแต่ไม่แสดงออก)  ตัวละครเลยดูตื้นๆ 
       เพื่อน : ตอนแรกยังรังเกียจเกย์อยู่เลยแต่พอน้องชายสารภาพดันยอมรับกันง่ายๆ ทั้งที่ทำหน้าเหมือนจะดราม่าได้อีกประเด็น นอกนั้นก็ดูธรรมชาติดี เป็นตัวสร้างสีสันให้เรื่อง ครึ่งแรกเราเข้าใจว่าดูหนังตลกอยู่

     - สรุป จะไม่ชักชวนให้ดู ยกเว้นสาววายต้องการเสพวายอย่างมาก (เพื่อนสาววายเรายังเซ็ง) หรืออยากไปดูภาพบรรยากาศเชียงใหม่ หรืออยากดูหน้านักแสดงแบบซูมๆ เพราะเนื้อเรื่องยัดประเด็นเยอะไป (ที่ใช้คำว่า เรื่องเครียด) บางอันก็จบประเด็นง่ายๆเร็วๆ แต่บางอันแก้ประเด็นไม่หมด เช่น แฟนพี่กอล์ฟหายไปไหน มาแค่เฟคเฉยๆ? มะเร็งสมองโผล่มาเหมือนโดนโยนเข้ามา (อันนี้ค่อนข้างแย่นะ ไม่มีอาการอะไรแสดงก่อนหน้านี้เลย มะเร็งสมองควรจะมีอาการบ้าง) ....สรุปแล้วผู้ชายรักกันได้มั้ย พี่น้องรักกันแบบนี้ผิดมั้ย แล้วสรุปทั้งสองคนจบที่ความรู้สึกพี่น้องเพราะมันผิดหรือเปล่า ? เราว่าจบที่สรุปว่าเป็นประสบการณ์ดีๆในชีวิตมันห้วนไป เหมือนพยายามทำเรื่องให้ดราม่าๆซึ้งๆเข้าไว้ แต่แก่นเรื่องกลับไม่ชัดเจน

----------------------------


ดูที่เอสพละนาดพร้อมบัตรเอ็มเจ็นรวมเป็นแปดสิบบาท
ถือซะว่าไปดูภาพสวยๆกับหนุ่มๆแบบซูมๆ



วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

[หนัง] ฟ้าคือสีที่อบอุ่นที่สุด

หรือ Blue is the warmest color
แนวเรื่อง(ตามความเห็นส่วนตัว) : หนังเกย์(เลสเบี้ยน),ชีวิต,ติสต์แตก,หน้านางเอกเต็มไปหมดเลย
ความยาว : เกือบ 3 ชม.
ภาษา : ฝรั่งเศส
สาเหตุ : ชื่อโดนใจโดนใจด้วยสาเหตุบางประการ กับชอบโปสเตอร์อันที่เป็นคนสองคนหันหน้าเข้าหากัน ชอบสีผมตัวเอกสุดๆ!! ...ขอสารภาพว่าตอนแรกเห็นคนหัวฟ้าเป็นผู้ชาย


เนื้อเรื่อง
***ย่อและสปอยล์อย่างมาก***
เกี่ยวกับเด็กสาวที่ชื่ออะเดล อยู่ในวัยรุ่นวุ่นรัก เธอค่อนข้างได้รับความนิยม มีหนุ่มมาจีบ แล้วก็ตามสไตล์หนังฝรั่ง มีเซ็กซ์กับแฟนหนุ่ม แต่สุดท้ายเธอกลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่... ระหว่างนั้น เธอก็เจอสาวทอมบอยหัวฟ้า(ที่มากับแฟนของเขา) แล้วก็ดันไปติดใจคนนั้น...ก็ขนาดเก็บไปฝัน(?)เลยนะ อะเดลตัดสินใจเลิกกับแฟนหนุ่ม ด้วยความสับสนในจิตใจ เธอก็ร้องไห้ใส่จอไปอีกสักพัก ให้สะเทือนอารมณ์เล็กๆ แล้วต่อมาชีวิตก็ดำเนินต่อไป
อะเดลมีเพื่อนเป็นเกย์ เธอจึงได้ไปบาร์เกย์ ชายหนุ่มต่างเพศและวัยจุมพิตกันเต็มฉากเบย--แล้วเธอก็เดินหนีออกมาอีกบาร์หนึ่ง กลายเป็นบาร์เกย์(หญิง)แทน ก็บรรยากาศคล้ายๆกัน หลังจากนั่งเหม่อสั่งเครื่องดื่มแล้วก็พบกับสาวในฝัน!!?? ที่มาช่วยเธอจากการโดนเต๊าะ แล้วความสัมพันธ์ก็ค่อยๆพัฒนาอย่างช้าๆจากตรงนั้น จนไปถึงตอนที่อายุมากขึ้น ทำงานแล้วอยู่ด้วย และการจบลงของความสัมพันธ์
เพิ่มเติม
การใช้ภาษาของเราอาจจะเสียอรรถรสไปเยอะ เพราะเรื่องนี้เขาจะค่อยๆดำเนินเรื่องไปช้าๆ ใส่รายละเอียดนู่นนี่ ฉากที่ทั้งคู่เจอกันครั้งแรก ฉากที่ไปเที่ยวงานพาเหรดอะไรสักอย่าง กิริยาการเคี้ยวของอะเดล การทำผม การดูดบุหรี่ และฉากเซ็กซ์ที่ก็ถ่ายเหมือนดูหนังชีวิตฉากหนึ่ง
....มันคือหนังชีวิตนั่นเอง เหมาะแก่การดูเรื่อยๆ ให้อินไปกับความรู้สึกตัวละคร ความสับสนในใจ กามตัณหา ความสัมพันธ์กับเพื่อน ความสัมพันธ์กับครอบครัว เหมือนได้ทำความรู้จักกับชีวิตคนอีกคนหนึ่ง ได้เห็นจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของความรัก
วิเคราะห์จากสมองตัวเอง
อะเดลเป็นตัวละครที่เป็นเด็กสาวธรรมดามาก หน้าตาดี แต่ก็มีสิ่งที่อยากทำคือการเป็นครูสอนเด็กๆ น่าแปลกที่ในเรื่องเอมม่าจะทักถึงเรื่องการเขียนหนังสืออยู่ตลอดแล้วบอกว่าเธอมีพรสวรรค์ แต่อะเดลก็จะปฏิเสธทุกครั้งไป ด้านครอบครัวก็พูดถึงแต่อาชีพมั่นคงในชีวิต ทำแต่สปาเก็ตตี้ที่อร่อย แต่เบสิก นั่งดูทีวีนิ่งๆเงียบๆระหว่างกินข้าว เมื่อเอาเทียบกับตัวละครเอมม่าที่บ้านจะกินอะไรแปลกๆ(สำหรับอะเดล) มีพ่อเลี้ยงเป็นเชฟ และตัวเอมม่าก็อยากทำงานด้านศิลปะ ซึ่งถูกพ่อแม่อะเดลมองว่า"ไม่มั่นคง" แต่เอมม่าก็ไม่ได้แคร์ใครเท่าไหร่ จนตอนจบเราจะเห็นได้ว่าเอมม่าประสบความสำเร็จมีแกลลอรี่ของตัวเอง
ไม่แน่ใจว่าคิดมากไปมั้ย แต่รู้สึกว่าสองคนนี้เหมือนแสดงให้เห็นถึงคนที่ยึดติดแต่หลักของ"ชีวิตจริง"กับคนที่ยึดกับ"ความฝัน"แล้วจะทำให้มันเป็นจริง
อย่างนึงที่ทำให้รู้สึกอย่างนั้นคือหัวฟ้าของเอมม่า ..คนปกติไม่ทำสีผมแปลกขนาดนั้น (มองตามเรื่อง) แล้วก็การที่อะเดลต้องปกปิดความสัมพันธ์ของตัวเองกับเอมม่า สิ่งที่ไม่ถูกยอมรับแล้วถูกเก็บงำเอาไว้ เอมม่าจึงเปรียบเสมือนฝันที่เป็นจริงของอะเดล ความต้องการจริงๆของเธอ..
อะเดลเป็นตัวแทนของความจริงที่ติดอยู่กับความรัก หนังแสดงให้เห็นว่าอะเดลก็แค่เป็นครู แล้วก็ช่วยเอมม่าเตรียมงาน และพูดอยู่บ่อยๆว่าการอยู่กับเอมม่าคือสิ่งที่เธอมีความสุขที่สุดแล้ว ในขณะที่เอมม่าจะไม่ค่อยพูดเยอะ เธอทุ่มเทและตั้งใจทำงานมาก เป็นคนที่กำลังวิ่งตามความฝันอย่างจริงจัง และพอดูจนจบแสดงให้เห็นว่า เอมม่าไม่ค่อยพูดอะไรโรแมนติกแต่เป็นคนที่ซื่อสัตย์ และรักมั่นคงมากกว่าอะเดลเสียอีก อะเดลจึงเป็นคนที่เอาความเหงามาเป็นข้ออ้าง และนอกใจเอมม่า พอเลิกกันอะเดลก็ดูจะเป็นฝ่ายที่ตั้งต้นใหม่ได้ยากกว่า เพราะได้ฝากความรัก ความหวัง ความฝันไว้กับคนๆเดียวหมดแล้ว (โดนเอมม่าไล่ออกจากบ้าน) เรียกได้ว่าชีวิตเสียศูนย์เลยทีเดียว เราคิดว่าหนังกำลังบอกอะไรบางอย่าง ...ไม่ได้บอกว่าอะเดลผิดหรือเปล่า แต่เหมือนกำลังเล่าเหตุและผลที่จะเกิด ไม่ว่าจะเพศไหน จะรักกันยังไง ความไว้ใจก็มาก่อนเสมอ และถ้าทำลายมันลงไปแล้ว การจะย้อนกลับไปให้ทุกอย่างเหมือนนั้นเป็นไปไม่ได้เลย...



จบนะ
ภาพ 8/10
เนื้อเรื่อง 6/10
(มันเล่าชีวิตอ่ะ เดาได้ และไม่ได้อินขนาดนั้น)
โดยรวม 7/10
(ไม่ดูซ้ำ ไม่แนะนำให้คนที่ไม่ใช่แนวนี้ดู แต่ถ้าชอบแนวนี้ เราว่าก็คงเป็นหนังที่สนุกอยู่พอสมควร
)


และสุดท้ายเราก็ยังงงๆว่าสีฟ้ามันอุ่นยังไง...

วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บล็อกกิ้ง



...พิมพ์ไว้ก่อน เดี๋ยวลืมว่าสร้างบล็อกมาทำไม

เป้าหมายบล็อกนี้คือ รีวิว / วิเคราะห์ / ประเมิน / ความเห็นส่วนตัว
เกี่ยวกับ ซีรียส์ (ส่วนใหญ่น่าจะฝรั่ง) ภาพยนตร์ อนิเมชั่น อะไรที่มันเคลื่อนไหวได้ หรืออาจจะเป็นหนังสือก็ได้

อาจจะเป็นอันที่ชอบมากๆ หรือเกลียดมากๆ ตามใจตัวเองเป็นหลัก
จะไม่มีภาพเยอะๆเหมือนบล็อกในเอ็กซ์ทีน หรือถ้ามีก็จะไม่วาดเอง

เอาไว้ฝึกพิมพ์ยาวๆด้วย การใช้ภาษาจะได้ไม่ตกต่ำเกินไป (ฮา)


จะแยกโซนเนื้อเรื่อง เล่าแบบเราเอง วิเคราะห์มีเหตุผลและโซนใช้อารมณ์
คิดว่าคงสปอยซะส่วนใหญ่ แต่จะพยายามไม่เล่าเรื่องย่อให้สปอยมาก
ถ้าไม่ลืมก็จะพิมพ์คำเตือนทุกครั้ง
แต่ก็ไม่ใช่บล็อกโฆษณาหนัง ดังนั้นอ่านแล้วคงเสียอรรถรสอยู่ล่ะมั้ง

อ้อ แล้วก็ คิดว่าคำว่าสนุกของแต่ละคนต่างกัน
(โดยเฉพาะเราที่จะสนุกไม่ค่อยเหมือนเพื่อนเท่าไหร่)
ไม่ควรเชื่อเรื่องความสสนุกของเราเท่าไหร่ แนะนำให้อ่านโซนอื่นจะดีกว่า


ใครหลงเข้ามาอ่านก็แสดงความยินดีด้วย 
คุณเข้าสู่โลกของการเสพหนังของแว่นแดงแล้ว
:3