หนังเรื่องนี้เป็นหนังคนที่...
อยากเป็นหมอ
กำลังเรียนหมอ
จบหมอแล้ว
หรือไม่ใช่หมอ
..ก็น่าดู
(หนังเก่า 1998 อีกแล้วค่ะ)
ตั้งแต่เริ่มเรื่อง.... อดัมเป็นคนธรรมดาที่เข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลโรคประสาทเพราะพยายามฆ่าตัวตาย แต่ค้นพบความสนุกในการคุยกับคนไข้คนอื่น รับฟังปัญหาของพวกเขา เขาพบสิ่งที่อยากทำที่สุดในชีวิตแล้ว นั่นคือการช่วยเหลือคนอื่น
ภาพตัดมาที่สองปีถัดมา อดัมเป็นนศพ.ปี 2 ที่แหกทุกกฏ เนียนเข้าไปคุยกับคนไข้ในรพ. เล่นด้วย สร้างความสนุกสนานเฮฮา และวุ่นวาย จนโดนคณบดี(มั้ง) เขม่นอยู่บ่อยๆ ช่วงแรกๆเขาก็รอดตัวไปได้ เพราะเขาคือหนึ่งในนศพ.ที่คะแนนสูงสุด !! (จะเกรียนต้องเก่งด้วยนะจ้ะ) แต่เมื่อความวุ่นวายทวีคูณ เพื่อนบางคนก็ใส่ร้าย บางคนก็ตีตัวออกห่าง ด้วยคำพูดว่า
"ฉันมาเรียนแพทย์ เพื่อจะเป็นแพทย์ที่ รักษาพวกเขาให้หาย ไม่ได้ต้องการมาเป็นตัวตลกให้คนไข้"
อดัมก็จะเถียงกลับประมาณ
"แล้วทำไมพวกเราต้องรักษาแต่โรค แค่ยืดวันตายคนไข้เหรอ หน้าที่ของแพทย์ควรจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตสิ ทำให้พวกเขามีความสุขด้วยสิ"
ช่วงที่ดูแล้วชวนคิดที่สุดคือในห้องประชุมที่จะตัดสิทธ์การเรียนต่อของแพทซ์ อันนั้นจะแสดงแนวคิดออกมาชัดที่สุด แพทซ์อาจจะเป็นเหมือนหมอหน้าใหม่ ที่แรกๆก็ไฟแรง ปฏิบัติกับคนไข้อย่างดี ทุ่มเทชีวิตให้ มีปฏิสัมพันธ์ มีอารมณ์ความรู้สึกร่วมกัน ซึ่งตามจรรยาบรรณแพทย์มักจะไม่ให้สนิทกับคนไข้เกินควร ในเรื่องเคร่งเรื่องระยะระหว่างคนไข้-หมอ แบบมากๆ จนบางทีแพทย์ก็ลืมปฏิบัติกับคนไข้ในฐานะมนุษย์ไปหรือเปล่า ?
......สุดท้ายเราว่าแพทซ์ไม่ใช่คำตอบของการเป็นแพทย์ซะทีเดียว อุดมการณ์และการทำอุดมการณ์สำเร็จของเขาเป็นเรื่องที่ดี น่ายกย่อง (สุดท้ายก็มี Gesundheit! Institute ได้จริงๆ เจ๋งมาก) แต่การจะให้ลุกขึ้นมาทำแบบเขานั้นคงเป็นไม่ได้แน่ ....แต่ละคนคงมีวิธีการ มีเส้นทางที่ต่างออกไป สิ่งที่จะได้จากเขาก็คงเป็นแรงผลักดัน ที่ทำให้เชื่อว่าการช่วยเหลือคนอื่นนั้นมันมีคุณค่า แม้ผลตอบแทนมันจะมีน้อย หรือไม่มี หรือได้รับอะไรแย่ๆกลับมาแทน แต่ถ้าทำให้สิ่งที่ตัวเองเชื่อว่าดี อย่างน้อยๆเราก็จะไม่เสียใจภายหลังแน่ๆเมื่อหันกลับมามองย้อนดู :)
สรุปแล้ว ก็ไม่ใช่หนังสนุกมากมายอะไร ดูเรื่อยๆ มีสุข มีเศร้า เราว่าเป็นหนังที่ดูแล้วได้แรงบันดาลในการคุยกับมนุษย์คนอื่นดี การสื่อสารกับคนอื่นไม่ใช่เรื่องยากขนาดนั้น แค่เรื่องเล็กๆน้อยก็ทำให้คนอื่นรู้สึกดีได้ ได้ทบทวนและถามตัวเองถึงอาชีพแพทย์ คิดว่าถ้าขาดแรงบันดาลใจเมื่อไหร่ คว้ามาดูอีกรอบก็คงได้อะไรดีๆ....กลับไปสู้กับโลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง
คงจะเจอกันเอนทรี่หน้า
...หลังจากนี้กะว่าจะขุดแต่หนังเก่าๆมาดู
หลังจากระเบิดมวลมหาดีวีดีที่บ้านออกมา 55555
ป.ล.เอ้อะ โรบิน วิลเลี่ยมอีกแล้วววววววว