วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558

[หนัง] สุนทรพจน์ของพระราชา


หรือ



 ต้องเกริ่นก่อนว่าตามมาจากนักแสดงนำ เพราะปกติเรามักจะคิดว่าหนังชีวประวัติไม่สนุก
แต่เรื่องนี้ทำเราเปลี่ยนทัศนคติเลยทีเดียว ถึงมันอาจจะเปลี่ยนทัศนคติคนอื่นไปนานแล้วก็เถอะ 5555 (หนังปี 2010)


   บางทีเรื่องเล็กๆอย่างการพูด ก็กลายมาเป็นเรื่องที่เป็นอุปสรรคชีวิต เพราะว่าชีวิตมี"การพูด"เป็นอาชีพ เหมือนคิงจอร์จที่หกที่จับพลัดจับพลูมาเป็นกษัตริย์ และในบรรดางานเซนต์เอกสารทั้งหมดทั้งมวลคือ การพูด เป็นกำลังใจในประชาชน/แถลงข่าวบลาๆ สิ่งที่เป็นปัญหาชีวิตของเขาคือ "พูดติดอ่าง" หรือ stammer (ได้ศัพท์เลย ดูหนังนี่ดีจริงๆ)


   ตอนเด็กๆเราเคยมีเพื่อนที่เป็นแบบนี้ คิดว่าคนที่เคยมีเพื่อนพูดติดอ่างน่าจะเป็นเหมือนกัน คือ ไม่เข้าใจ ทำไมไม่พูดชัดๆ บางคนอาจจะสงสาร บางคนอาจจะล้อเลียนเขาไปเลย ซึ่งอันที่จริงแล้วอาการพูดติดอ่างมีที่มาที่ไป อย่างในเรื่องนี้เสนอถึงการที่ในวัยเด็กถูกบังคับและฝืนในทำอะไรที่ไม่ใช่ธรรมชาติ เช่นบังคับเขียนมือขวา แม้จะถนัดซ้าย ดัดขาให้ตรง เพราะชาโก่ง แต่มันก็มีอีกหลายๆสาเหตุที่ทำให้เด็กสักคนกลายเป็นคนติดอ่าง



   เราชอบการนำเสนออารมณ์ของหนังเรื่องนี้ ตรงที่มันสร้างความกดดันให้กับผู้ดูไปด้วย ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเราก็พูดต่อหน้าคนจำนวนมากไม่เก่งหรือเปล่า เลยรู้สึกว่าอิน (ฮา)  แม้จะเป็นแค่การอ้ำอึ้ง แต่เมื่อมันเกิดขึ้นต่อหน้าคนจำนวนมาก สายตาคาดหวังและผิดหวังของพวกเขาเหล่านั้น เป็นเหมือนทะเลของความกลัว ที่จะทำให้ใครสักคนชะงักการพูดไปได้อย่างง่ายดาย


   แต่ประเด็นสำคัญที่เรามองจากเรื่องนี้ได้ก็คือการที่เบอตี้(คิงจอร์จ)ได้ผู้เชี่ยวชาญด้านการพูดมาช่วยเหลือ ถึงพวกเขาจะไม่ค่อยลงรอยกัน แต่สุดท้ายด้วยใจจริงของผู้รักษา เขาก็ยอมรับและปฎิบัติตาม แน่นอนว่ามันไม่ง่าย ไม่ใช่ว่าฝึกๆแล้วจะพูดได้คล่องปรื๋อตอนจบแบบหนังแฮปปี้เอนดิ้งทั่วไป แต่มันก็แสดงให้เห็นพัฒนาการด้านการพูดของเขา  แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เราโคตรไม่ถนัดขนาดไหน ถ้าเราฝึกฝนมันอย่างตั้งใจ เราก็จะทำได้"ดีขึ้น"แน่นอน



   เราเลิกเชื่อคำว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้เรากลับไปเชื่อหรอก

แต่มันบอกเราว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน เราก็จะยิ่งพัฒนามากขึ้น"

เพราะ ความสำเร็จ ไม่ได้การันตีด้วยความพยายามเพียงอย่างเดียว มันประกอบไปด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ความพยายามอย่างสม่ำเสมอ การสนับสนุน และบางทีก็ต้องมีตัวช่วยเล็กๆน้อยๆ ทำให้ทางสู้ความสำเร็จมันเรียบขึ้น



หนังเรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ดีในการนำเสนอองค์ประกอบทั้งหมดนั้น
ในแง่ที่ว่า อุปสรรคอย่างเดียวในชีวิตตอนนั้น คือ





ตัวเราเอง




ถ้าเคยตั้งเป้าทำอะไรสักอย่างแล้วสำเร็จ คิดว่าเราน่าจะมีความเห็นตรงกัน :D