วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

[หนัง] แครอล

____________________

อันที่จริงหนังแรกที่ดูของปีคือ Snap - เป็นหนังไทยเรื่องแรกที่เราชอบการสื่อความรู้สึกมาก เรื่องต่อมาคือ Big short เป็นการแฉด้านมืดของระบบทุนนิยยมที่ล้มตอนปี 50 มั้ง เป็นเรื่องถ่ายทอดออกมาได้ดีทีเดียว เหมือนโดนประวิติศาสตร์ฟาดแรงๆ แต่ด้วยความที่ดูผ่านไปสักัพกแล้ว เลยไม่รีวิวนะ (ฮา)

ไม่ได้เขียนนาน มึนๆหน่อยนะ
____________________



หากโลกนี้มีตัวละครหญิงสตรีที่สมบูรณ์แบบสำหรับอเมริกันชนยุคศตวรรษที่ 19 แครอลก็คงเป็นลุคนั้น ผู้หญิงผมบลอนด์โค้ทเฟอร์ ริมฝีปากแดง ในขณะที่เทเรซ เป็นตัวละครหญิงที่ดูจะเป็นตัวประกอบของหนังในยุดนั้นเสียมากกว่า หรือเป็นบทบาทตัวละครเสริม ที่ถูกชักจูงไปทางที่คนอื่นต้องการอย่างง่ายดาย

มาพูดถึงเทเรซ ดูเหมือนจะเป็นตัวละครที่ตื้นเขิน ไม่มีแรงจูงใจอะไรในชีวิตเป็นพิเศษ หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม ทำงาน มีหนุ่มๆมารุมชอบ ไม่รู้ว่าเจ้าตัวชอบใครมั้ย รู้แต่ว่าเธอไม่เคยปฎิเสธใครเท่าไหร่นัก จุดยืนที่เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของตัวละครน่าจะเป็นการที่เธอชอบถ่ายรูปมาก ขนาดที่เห็นการถ่ายรูปน่าสนุกกว่าไปเที่ยวยุโรป - นั่นหมายความว่าเธอไม่ได้ให้ความสัมพันธ์กับเรื่องราวหรือสถานที่ เพียงแต่เธอชอบในการกระทำที่จะเก็บภาพต่างๆเหล่านั้นเอาไว้

พัฒนาการของตัวละครถูกถ่ายทอดออกมาจากรูปที่เธอถ่าย จากประโยคที่เพื่อนของเธอบอก "สนใจมนุษย์คนอื่นบ้างสิ" จากเดิมที่เธอเป็นตัวละครที่แทบจะ isolate จากโลกโดยสิ้นเชิง ก็ถูกผูกเข้ากับโลกทีละน้อย - ในที่นี้คือแทนด้วยภาพแครอล (เรามาเข้าใจเอาทีหลังตอนที่เธอเทภาพทุกอย่างมากองรวมกัน) เราไม่ได้โฟกัสที่ love at first sight เท่าไหร่ ด้วยความรู้สึกส่วนตัวและคิดว่ามันอาจจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความ "สนใจ" เสียมากกว่า แครอทดึงเทเรซเข้าสู่โลกใบนี้ และขนานนามเธอว่าเป็น "คนที่มาจากนอกโลก"

บรรยากาศที่ใช้รถเกียร์กระปุก กล้องฟิล์ม เขียนใบเสร็จรับเงินด้วยมือ การส่งของด้วยไปรษณีย์ ใช้ตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญ เจอกันแบบนัดเวลา มันเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบหลักที่ทำให้ตัวเรื่องดูกลมกล่อม ทั้งความคลาสสิคและกลิ่นอายของคริสมาสต์ ถ้าเป็นคนที่ชอบบรรยากาศพวกนี้(เช่นเรา) ก็ไม่ยากที่จะหลงไปกับบรรยากาศของเรื่อง

"แครอล" ไม่ใช่ผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบอย่างที่เราเห็นในแว่บแรก ในโลกที่คนสมบูรณ์แบบถูกนิยามไว้นั้น คือ ครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งที่แครอลกำลังจะสูญเสียมันไป ไม่ว่าด้วยเหตุผลนั้นจะเป็นอะไร ตัวตนที่ดูจะมั่นคงและทรงเสน่ห์ของเธอมันถูกสั่นคลอนจนน่ากลัว เพราะเธอกำลังจะสูญเสียสิทธิ์ในการดูแลลูกสาวไป ดูพายุปัญหาที่โหมเข้ามา เธอทำได้เพียงทิ้งปัญหาไว้ตรงนั้น และออกเดินทาง โดยมีเพื่อนร่วมทางเป็นคนที่ดูจะเป็นรักครั้งใหม่ของเธอ

อธิบายยากว่าความสมเหตุผลของเนื้อเรื่องมันเกิดจากเนื้อเรื่องจริงๆ หรือเป็นเพราะเราถูกนักแสดงที่แสดงเก่งจริงๆทำให้หลงเชื่อเสียเต็มประดา


"สิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันทำเพื่อเธอได้ คือการปล่อยเธอไป"


เป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดใจช่วงหนึ่งของตัวหนัง สายโทรศัพท์ไม่ช่วยให้คนทั้งสองใกล้กันเลยห่างทั้งสองไม่ส่งเสียงหากัน สิ่งที่เราว่าสมเหตุสมผลที่สุดดูจะเป็นความรักของแครอลต่อลูก ที่เธอพยายามทำทุกอย่างจริงๆ เพื่อลูก แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตเธอ...



________________________
จปถ.
สายตาเฟลิร์ทของแครอล เหมือนจะแนบเนียน แต่ก็โจ่งแจ้งจนคนมองต้องใจสั่น (เข้าใจได้ว่าทำไมเทเรซถึงพร้อมจะเซย์เยสกับทุกอย่าง) เพราะเทเรซแสดงตัวออกมาว่าเป็นฝ่ายที่ดูใสซื่อ เห็นโลกมาน้อยกว่า สายตาเธอสดใสเหมือนคนที่จะรับอะไรใหม่ๆเข้าไปได้ เธอดูเหมือนแทบไม่มีกำแพงตอนอยู่ด้วยกัน ความผูกพันธ์ที่ค่อยๆดำเนินไปตามเทศกาลต่างๆในชีวิตของทั้งสองคน มันอาจจะดูวูบวาบแต่ก็ละมุนละไมไปพร้อมกัน (นี่ก็ไม่รู้ว่าเพราะภาพมันสวยหรือเปล่าเลยรู้สึกละมุนขนาดนี้) ความรักมันคงไม่ต้องการเหตุผล เพราะงั้นในตัวหนังแทบไม่แสดงออกมาเลยด้วยซ้ำว่าเหตุผลและที่มาที่ไปคืออะไร

มันคงเป็นความแตกต่างในแง่วัฒนธรรมละมั้งที่เราอาจจะต้องการเหตุผลมารองรับความรู้สึกต่างๆ มากกว่าที่ตัวหนังนำเสนอ บางอย่างจึงอดรู้สึกไม่ได้ว่ามันดูเบาไปไม่หน่อย (แต่เพราะรอยยิ้มกระชากใจของป้าเรายอมได้ 5555) 


โลกที่ทั้งสองอยู่มันเหมือนคนละมิติ แต่ความบังเอิญบางอย่างที่ทำให้ทั้งสองคนหมุนเข้ามาเจอกัน และตัดสินใจสานต่อความสัมพันธ์กันไปละมั้ง เลยทำให้รู้สึกถึงความโรแมนติกของเรื่องนี้

อ่า ใช่ เพลงประกอบดีมากอ่ะ เพิ่มอารมณ์ได้เยอะมาก และรูปที่ถ่ายในเรื่องสวยมาก
หลงเต็มๆ

_______________________

หนังเลสเบี้ยนเรื่องที่สองในชีวิต
หลงเจ๊เคทเต็มๆ ดูแล้วเขินแรงมาก 5555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น