วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[หนัง] ฉัน ฉัน


หรือ Ore Ore หรือ It's me, It's me เป็นหนังตลกสัญชาติยุ่นเมื่อปีก่อน

เข้าไทยหรือเปล่าไม่รู้
ตอนแรกดูเรทติ้งในimdbละได้น้อยมาก

แต่เราว่ามันสนุกนะ
ภาพแบบญี่ปุ่นๆ ฉากงามๆ

เนื้อเรื่องกวนตีนๆ มึนๆ แล้วค่อยๆเฉลยไป ถึงจะมึนๆไปหน่อย
แต่ดูแล้วรู้สึกสนุกดี

ไม่แน่ใจว่ามันจะสอนอะไรมั้ย
แต่ดูแล้ว

[สปอยล์]

เหมือนเป็นบทลงโทษของคนที่ทำชั่วไม่ขึ้น
พระเอกหลอกเงินจากแม่ผู้ชายคนนึง โดยสวมรอยเป็นผู้ชายคนนั้นทางโทรศัพท์
พวก "โทรศัพท์หลอกลวง" ประมาณนั้น

ตอนแรกขอ ล้านเยน คิดไปคิดมาลดได้ 900000 เยน

จากนั้นความวุ่นวายในชีวิตก็เริ่มต้นขึ้น
ตั้งแต่แม่ของที่หลอกกลายมาเป็นแม่เขาจริงๆ

แม่เขาก็ดันมีลูกอีกคนหนึ่ง ที่หน้าเหมือนเขาทุกอย่าง
แล้วก็เจออีกคนที่หน้าเหมือนเขาทุกอย่างอีกคน
ท่าทาง การพูดก็เหมือน (ดูแล้วมันน่ารักบอกไม่ถูก 55555)


ตอนแรกชีวิตเฮฮา หนุกหนาน
ไปๆมาๆ คนหน้าเหมือนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ
แล้วก็มีคนหน้าเหมือนที่ถูกฆ่าเยอะขึ้นเรื่อยๆ
เรียกว่าเป็นการ"ถูกลบ"
จนพระเอกเริ่มสติแตก อ้าว กูเป็นใครวะ ตกลงกูตายไปหรือยัง หรือยังไง
มีเจ๊สาวสวยมาเตือนสติชี้แนะ
แต่แล้วเจ๊ก็กลายเป็นพระเอกไปด้วยอีกคน กรี๊ดดดดดด (โคตรสปอยล์ - เราจะฝันร้ายมั้ยนะ)

เรื่องจบแบบที่ทุกคนเดาได้แหล่ะมั้ง แต่เฉลยปมไม่หมด บ้าจริง
แต่การดำเนินเรื่องโอเค ถึงจะนอกหลักเหตุผล และเล่นมุขให้ชีวิตงงก็เถอะ



มาพูดถึงตัวละครที่เจอเยอะที่สุดหน่อย
ฮิโตชิ นากาโนะ (คนขวา)
พระเอกเป็นคนที่ทำอะไรครึ่งๆกลางๆกล้าๆกลัวๆ
เดิมเป็นช่างภาพมืออาชีพ
แต่ไม่รู้ทำไมไปจบแค่พนง.ขายกล้อง
สุดท้ายพอจะตัดสินใจ ชีวิตก็เจอดอปเปลแกงเกอร์ทั่วเมือง โคตรซวย



-------------------------------------------------------------------------------------------------

เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย สารภาพตามตรงว่าตามดูเพราะนักแสดง (...)
แต่ได้อะไรดีๆ เช่นเรื่องแก้ปัญหา เรื่องการจมกับชีวิตประจำวันจนลืมเป้าหมาย

ไม่ได้ดูหนังยุ่นมานานแล้ว like fatherฯ ยังไม่ได้ดูเลย โฮรล อยากดู
เหมือนดูการ์ตูนหน่อยๆแฮะ ทั้งการเล่นมุข จังหวะมุข ท่าทางนักแสดง
หรือเพราะเราชินกับทางตะวันตกมากกว่าก็ไม่รู้
แต่ก็ดูได้ลื่น ไม่ได้แข็งอะไร

เอาเป็นว่าถ้าอยากหาเรื่องอะไรดูเครียดนิดๆขำหน่อยๆก็แนะนำค่ะ..
ถ้าเจอแผ่นจริงก็อยากจะสอยค่ะ...

ป.ล.
ชอบประโยคนึง ไม่ใช่แกนเรื่อง(?)เท่าไหร่อ่ะนะ ...


"บนโลกนี้มีคนทำงานอยู่สองประเภท คือ ประเภทที่อยากลาออก และประเภทที่ไม่อยากลาออกจากงาน"

-เจ๊ซายากะได้กล่าวไว้

มันดูพูดง่ายนะ
แต่ชีวิตเราก็ไม่ได้มีทางเลือก หรือเรามีทางเลือก แต่เราไม่ค่อยกล้าเลือก

...ก็ขอปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตก่อนละกัน





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น